Trip Loei

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

จรรยาบรรณนักบัญชีตามวิถีพุทธ


โอกาสและอนาคตอันสดใสของวิชาชีพบัญชี   ผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิชาการบัญชี (บช..) และจะมีโอกาสโดดเด่นที่จะมีอนาคตสดใสจากการเป็นนักบัญชีมืออาชีพ
1.            มีคุณสมบัติที่สอบเป็น ผู้สอบบัญชีภาษีอากร (Tax Auditor : TA) ได้ทันที (ผู้สอบภาษีอากร 1 คนสามารถสอบเซ็นรับรองงบได้ 300 ราย) ดังนั้นยังมีความต้องการและโอกาสที่จะสอบเป็นผู้สอบบัญชีอีกมาก
2.            มีคุณสมบัติเป็น ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (Certified Public Accountant : CPA) ได้ หากสอบได้ใบอนุญาต CPA จะสามารถประกอบวิชาชีพอิสระเหมือน นายแพทย์ วิศวกร นักกฎหมาย ฯลฯ
3.            มีอาชีพเป็น ผู้ตรวจสอบภายในรับอนุญาต (Certified Internal Auditor : CIA) ได้ หากสอบได้ใบอนุญาต CIA สามารถประกอบอาชีพได้ทั่วโลก
4.            มีอาชีพเป็น ผู้ตรวจสอบภายใน (Internal Auditor : IA) ของบริษัท สถาบันการเงินรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งกระทรวงต่างๆ ได้
5.            มีคุณสมบัติเป็น ผู้ทำบัญชี ตามพระราชบัญญัติการบัญชี 2543 ได้ โดยสามารถเป็นผู้ทำบัญชีตามกฎหมายให้กับห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด เป็นต้น
ส่วนนักศึกษาที่จบระดับปวส.และปวช. สามารถเป็นผู้ช่วยทำบัญชี(Bookkeeper)

     อาชีพนักบัญชีเป็นอาชีพที่มีความรับผิดชอบสูง นักธุรกิจสามารถนำตัวเลขทางบัญชีไปวิเคราะห์ผลการประกอบการ ดูแนวโน้มทางธุรกิจ คาดคะเนการขาย วางเป้าหมายธุรกิจ และการใช้ข้อมูลทางบัญชีวิจัยทางด้านตลาด  ส่วนภาครัฐบาลสามารถนำตัวเลขไปวางแผนด้านงบประมาณ การจัดเก็บภาษี วิเคราะห์ความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศ (GDP)ฯลฯ  ดังนั้นอาชีพนักบัญชีก็ไม่ต่างกับอาชีพแพทย์  นักกฎหมาย ที่ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ ซึ่ง ณ ปัจจุบัน

สภาวิชาชีพบัญชี ซึ่งเป็นองค์กรนิติบุคคลระดับประเทศได้ออกพระราชบัญญัติ

พุทธศักราช 2547 ว่าด้วย จรรยาบรรณนักบัญชี ที่ดี ดังนี้
1.            มีความซื่อสัตย์ สุจริต
2.            มีความละเอียดรอบคอบ
3.            รักษาความลับทางด้านบัญชีของหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง
4.            ไม่นำเอกสารทางด้านบัญชีไปเผยแพร่ต่อบุคคลภายนอก โดยไม่ได้รับอนุญาต

ในเมื่อตัวเลขทางบัญชีมีประโยชน์และมีความสำคัญมากเปรียบเสมือน เข็มทิศทางเศรษฐกิจ ของประเทศ ดังนั้นนักบัญชีเป็นผู้ทำและควบคุมตัวเลขเหล่านั้นจะมีความเที่ยงตรงและน่าเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ของผู้ทำบัญชี
             ความสำคัญของตัวเลขทางบัญชีมีความสำคัญเพียงใด  บริษัท เอ็นรอน จำกัดของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประสบปัญหาจนบริษัทล้มละลาย เพียงเพราะนักบัญชีตบแต่งตัวเลข  หรือเมื่อเร็วๆนี้บริษัทแก๊สแห่งหนึ่งของเมืองไทยก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกันที่พนักบัญชีตบแต่งตัวเลขทางบัญชีหลอกลวงประชาชน เพื่อให้หุ้นดูดีในตลาดหลักทรัพย์จนถูกตรวจสอบ
            ดังนั้นหลักธรรม ความซื่อสัตย์จึงเป็นหนึ่งในเบญจศีล ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจทุกชนิด ต่อให้รูปลักษณ์ของกิจการดีขนาดไหนโฆษณาดีอย่างไร  ถ้าพนักงาน
บัญชีปฎิบัติตนไม่ตรงไปตรงมาไม่ตระหนักในคุณธรรมความดีงามตามวิธีพุทธในเรื่องความซื่อสัตย์ เมื่อนั้นจะเป็นเคราะห์ร้ายของกิจการเป็นอย่างยิ่ง ความซื่อสัตย์ของพนักบัญชีจึงเป็นเรื่องที่ต้องยึดถือปฏิบัติตลอดทั่วทั้งกิจการตั้งแต่ผู้บริหารสูงสุดลงมาจนถึงพนักงานระดับล่างสุด สุภาษิตไทยที่ว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นานยังเป็นความจริงที่ไม่มีวันตายไม่ว่าธุรกิจใดๆ ก็ตาม ความซื่อสัตย์เป็นนโยบายที่ดีเสมอ  หากหวังจะให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตอย่างมั่นคง
         มนุษย์ทุกคนควรทำงานด้วยความมีสติ มีสมาธิ ตามหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและมนุษย์ทุกคนก็ต้องการทำอะไรให้ประสบกับความสำเร็จเสมอ คงไม่มีใครที่อยากจะเห็นผลงานของตนเองล้มเหลว ผิดพลาด  เพราะความผิดพลาดไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ก็ย่อมส่งผลต่อตัวเราแทบทั้งนั้น ไม่มากก็น้อย ผู้บริหารทุกคนย่อมอยากให้ผลงานที่ตนเองรับผิดชอบออกมาดี แต่บางครั้งอาจมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ทั้งที่คิดว่าผลงานต่างๆ ที่ผ่านมือของเรานั้น น่าจะดีที่สุด ถูกต้องที่สุด ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหนึ่งที่เชื่อว่าอาจมีผู้บริหารหลายท่านเคยเป็น นั่นคือ การขาดความละเอียดรอบคอบ ความเลินเล่อประมาทเพราะขาดสติในการทำงาน  
        ชีวิตการทำงานความละเอียดรอบคอบนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะการทำงานทุกคนย่อมหวังให้เกิดผลที่ดีที่สุด ธุรกิจประสบความสำเร็จมากที่สุด การทำงานแบบคิดว่าทุกอย่างน่าจะดีที่สุดโดยไม่ได้ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด ความประมาทย่อมอันตรายและหมายถึงโอกาสผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น
       การทำงานไม่ควรฝากความหวังไว้ที่คนใดคนหนึ่งแต่เพียงอย่างเดียว แต่ทุกคนควรมีส่วนช่วยกันพิจารณาตรวจทาน ไม่เว้นแม้แต่ผู้บริหาร เพราะหลายตา หลายความคิด ย่อมดีกว่าตาเดียว ความคิดเดียว  เพราะเมื่อหลายคนร่วมกันดู ช่วยกันตรวจทาน ข้อบกพร่องความผิดพลาดต่างๆ ก็ย่อมลดลงไปด้วย เพราะการทำงานไม่ใช่หมายถึง การทำ
อย่างลวกๆ แต่หมายถึง การทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับบริษัท เพื่อให้ผลงานที่

ออกมาโดดเด่น ถูกใจลูกค้า ดังนั้น ความละเอียดรอบคอบ จึงเป็นสาระสำคัญที่สุดของการมีสมาธิในการทำงานที่นักบัญชีจะละเลยไม่ได้เลย
           ดั่งพุทธธรรมที่ว่าความประมาทเป็นหนทางแห่งความหายนะ

            ทหารต้องรักษาความลับของกองทัพฉันใด นักบัญชีที่ดีก็ต้อง
รักษาความลับของบริษัทฉันนั้น ไม่ว่าความลับทางความคิด
ความลับทางเอกสาร ความลับตัวเลขทางบัญชี  และไม่นำเอกสารที่
ไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนหรือคู่แข่งขันจึงเป็นจรรยาบรรณที่สำคัญอีกข้อหนึ่ง

                              ระบบงานบัญชีของทุกองค์กร ถือเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญยิ่งอีกประ  
                            การหนึ่งของความสำเร็จของการดำเนินงานและการดำเนินธุรกิจของ
                            องค์ กร สาระสำคัญที่สุดของงานบัญชี คือ ความละเอียดรอบคอบ ถูก
                            ต้องแม่นยำ ซื่อตรง ชัดเจน โปร่งใส เป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจ เป็น
                            ระเบียบระบบเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานของการบัญชี
นักบัญชีที่ดีต้องยึดถือตามวิถีพุทธ พึงมีคุณสมบัติสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนักบัญชีตาม สาระสำคัญดังกล่าว เพื่อจัดทำ ควบคุม ดูแล ตรวจสอบ และรายงานฐานะทางการเงิน และรายละเอียดอื่น ๆ ด้านการบัญชีของ บริษัท องค์กร สถานประกอบการ เยี่ยงนักบัญชีที่มีความรู้ ทักษะ ความสามารถและมีคุณธรรม ในสาขาของตน และเป็นผู้ที่ทรงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ ซื่อตรง รักษาจรรยาบรรณของนักบัญชีอย่างเที่ยงตรง โดยมีศีล คือประพฤติดีมีความซื่อสัตย์  สมาธิ คือ มีสติทำงานด้วยความรอบคอบ ปัญญา คือ รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลกรักษาความลับขององค์กรและลูกค้า
           นักบัญชีต้องสร้างความตระหนักคุณความดีในวิชาชีพ โดยยึดหลักศีลคือความซื่อสัตย์ สมาธิคือ ความละเอียด รอบคอบในการทำงาน  และปัญญาคือความมุ่งมั่นดำเนินงานของตนจนเกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ก่อความเดือดร้อนไม่เบียดเบียนผู้อื่น  ก็ได้ชื่อว่าเป็นนักบัญชีที่ดีได้จรรโลงคุณธรรมความดีตามวิถีพุทธแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น