Trip Loei

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สอบบัญชีรับอนุญาต กับ หลักการเตรียมตัว


การเตรียมตัวเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (Certified Public Accountant : CPA) ควรต้องรู้ข้อบังคับของ ก.บช.ที่กำหนดไว้ ซึ่งมีคณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี (ก.บช.) เป็นผู้กำกับดูแลออกข้อบังคับวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อควบคุมผู้สอบบัญชีรับอนุญาต

ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1. เป็นผู้รับปริญญาทางการบัญชี หรือประกาศนียบัตรทางการบัญชี ซึ่ง ก.บช. เทียบว่าไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบัญชี หรือเป็นผู้ได้รับปริญญา หรือประกาศนียบัตรไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีที่มีการศึกษาวิชาการบัญชีซึ่งทาง ก.บช.เห็นสมควรให้เป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้
2. มีอายุยี่สิบปีบริบูรณ์แล้ว
3. มีสัญชาติไทยหรือสัญชาติของต่างประเทศที่ยินยอมให้บุคคลสัญชาติไทยเป็นผู้สอบบัญชีในประเทศนั้นได้
4. ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี
5. ไม่เคยต้องโทษจำคุกในคดีที่ ก.บช. เห็นว่าอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
6. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
7. ไม่ประกอบอาชีพอย่างอื่นที่ไม่เหมาะสม หรือทำให้ขาดความเป็นอิสระในหน้าที่ผู้สอบบัญชี
8. เคยปฎิบัติงานเกี่ยวกับการสอบบัญชีมาแล้วโดย ก.บช. เห็นว่าทำหน้าที่เป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้ คือจะต้อง


(1) ฝึกหัดงานสอบบัญชีเป็นเวลาต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3 ปีบริบูรณ์  และมีเวลาฝึกหัดงานไม่น้อยกว่า 3,000 ชั่วโมง จะกระทำในระหว่างการศึกษาเพื่อรับปริญญาหรือหลังจากได้รับปริญญาแล้วก็ได้ แต่ถ้าฝึกหัดงานในระหว่างการศึกษาจะเริ่มฝึกหัดงานหลังจากได้สอบผ่านวิชาการบัญชีตามที่ ก.บช. กำหนดไม่น้อยกว่า 4 รายวิชา และวิชาสอบบัญชีไม่น้อยกว่า 1 รายวิชา ซึ่งรวมทุกวิชาแล้ว ไม่น้อยกว่า 15หน่วยกิต

วิชาการบัญชีที่ ก.บช. กำหนด ต้องศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรีเพื่อเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตรวม 7 รายวิชา มีดังนี้
- การบัญชีขั้นต้น/ชั้นต้นและการบัญชีขั้นกลาง/ชั้นกลาง 3 รายวิชา
- การบัญชีขั้นสูง/ชั้นสูง 1 รายวิชา
- การสอบบัญชี 1 รายวิชา
- การบัญชีต้นทุน 1 รายวิชา
- การภาษีอากร 1 รายวิชา

ผู้ที่จะฝึกหัดงานสอบบัญชีจะต้องปฏิบัติ 
ดังนี้
- หาสำนักงานสอบบัญชีที่จะเข้าไปฝึกหัดงาน และควรตรวจสอบกับสำนักงาน ก.บช. ด้วยว่าผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่ท่านเข้าฝึกหัดงานด้วยนั้นยังเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
- ให้ยื่นคำข้อแจ้งการฝึกหัดงานต่อสำนักงาน ก.บช. ตามแบบ ก.บช. 2 ในทันทีที่เริ่มฝึกหัดงาน เพราะจะเริ่มนับระยะเวลา และจำนวนชั่วโมงฝึกหัดงานในวันที่ยื่นแบบ ก.บช. 2
- ทุกรอบ 12 เดือนที่ฝึกหัดงานจะต้องรายงานผลการฝึกหัดงานต่อสำนักงาน ก.บช. ตามแบบ ก.บช. 3 เช่น ฝึกหัดงานวันที่ 15 ก.ย.43เมื่อถึงวันที่ 14 ก.ย.44 จะต้องรายงานผลการฝึกงานตามแบบ ก.บช.3
- ในระหว่างฝึกหัดงาน ถ้ามีเหตุใด ๆ ก็ตามที่ทำให้ท่านต้องเปลี่ยนผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่รับรองการฝึกหัดงานของท่าน จะต้องแจ้งต่อสำนักงาน ก.บช. ตามแบบ ก.บช. 6 ภายใน 1 เดือน ถ้าแจ้งเลยกว่า 1 เดือน จะต้องเริ่มนับระยะเวลาและจำนวนชั่วโมงฝึกหัดงานใหม่
- เมื่อฝึกหัดงานครบ 3 ปี และได้จำนวนชั่วโมงฝึกหัดงานไม่น้อยกว่า 3,000 ชั่วโมง ให้แจ้งต่อสำนักงาน ก.บช. เพื่อปิดการฝึกหัดงานตามแบบ ก.บช. 7 
(2) ผ่านการทดสอบของคณะกรรมการทดสอบการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสอบบัญชี วิชาที่ทดสอบมี 5 วิชา คือ
- การบัญชี
- การสอบบัญชี 1
- การสอบบัญชี 2
- กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพสอบบัญชี
- การใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดทำและตรวจสอบบัญชี


โดยจะต้องสอบผ่านให้ได้ทั้ง 5 วิชา โดยมีคะแนนในแต่ละวิชาไม่น้อยกว่า 60 คะแนน ข้อสอบจะเป็นปรนัย 40 ข้อ (40 คะแนน) อัตนัย 3 ข้อ (60 คะแนน) เวลาสอบ 3 ชั่วโมงต่อ 1 วิชา วิชาที่สอบผ่านแล้ว สามารถเก็บผลคะแนนไว้ได้ไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่ผ่านการทดสอบ
ก.บช. จะจัดสอบปีละ 3 ครั้ง คือ เดือนมิถุนายน กันยายน และธันวาคม ซึ่งจะสอบวันอาทิตย์ จะเปิดรับสมัครสอบก่อนถึงวันสอบ 2เดือน โดยเดือนแรกจะเปิดรับสมัคร ส่วนเดือนที่สอง ก.บช. จะใช้พิจารณาคัดเลือกผู้สมัครที่จะมีสิทธิเข้าสอบ
ผู้ที่ผ่านการฝึกหัดงานครบถ้วนตามเงื่อนไข และผ่านการทดสอบครบทั้ง 5 วิชา ให้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตต่อสำนักงาน ก.บช. และ ก.บช. ออกใบอนุญาต คุณก็จะเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้ในเวลาต่อมา

ที่มา : pattanakit.net


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น